การเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในตลาดและกฎระเบียบของธุรกิจประกันภัย ต้องเน้นการปรับตัวเชิงรุกทั้งในด้านเทคโนโลยี การบริหารความเสี่ยง และการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคและกฎระเบียบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยมีแนวทางสำคัญดังนี้
-
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของ DNA องค์กร มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่มองการณ์ไกล
-
ปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลลูกค้าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รวมถึงการใช้ Digital Insurance System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
-
บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ โดยติดตามและประเมินความเสี่ยงใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ และภัยไซเบอร์ พร้อมทบทวนกลยุทธ์และมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง
-
ปรับปรุงกฎเกณฑ์และมาตรการกำกับดูแลให้ทันสมัย เช่น การเปิดโครงการ Product Sandbox เพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงการเพิ่มบทบาทของคนกลางประกันภัยจากผู้เสนอขายเป็นที่ปรึกษา
-
สร้างความเชื่อมั่นและเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีช่วยให้ประชาชนเข้าถึงประกันภัยสะดวก รวดเร็ว และเข้าใจข้อมูลอย่างชัดเจน รวมถึงพัฒนาช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบ Omnichannel
-
เตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง เช่น Hard Market โดยทบทวนระดับความเสี่ยงที่รับได้ ปรับเกณฑ์การรับประกันภัย และกำหนดเงื่อนไขการรับประกันภัยใหม่ ๆ เพื่อรักษาความมั่นคงของธุรกิจ
-
สนับสนุนนวัตกรรมประกันภัยที่ครอบคลุมและช่วยลดความเสียหาย โดยภาครัฐควรส่งเสริมประกันภัยที่มีราคาเข้าถึงได้และสนับสนุนการปรับตัวของประชาชนเพื่อลดความเสี่ยงระยะยาว
-
เลือกพันธมิตรและระบบไอทีที่เหมาะสม เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศธุรกิจประกันภัยเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
โดยสรุป ธุรกิจประกันภัยต้องผสานการบริหารความเสี่ยง การใช้เทคโนโลยี การปรับตัวตามกฎระเบียบ และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในตลาดและกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
