ระบบชำระเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจในประเทศไทยควรรองรับการชำระเงินผ่าน QR Code และ PromptPay ซึ่งเป็นช่องทางยอดนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็วในไทย รวมถึงควรเลือก Payment Gateway ที่มีความปลอดภัยสูง รองรับบัตรเครดิต/เดบิต และเชื่อมต่อกับระบบธนาคารไทยได้อย่างราบรื่น.
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา:
-
QR Code Payment และ PromptPay: เป็นระบบชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมต่ำ เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะ SME ที่ต้องการรองรับลูกค้าทุกกลุ่ม.
-
Payment Gateway ที่นิยมในไทย เช่น
- K Payment Gateway (ธนาคารกสิกรไทย) รองรับบัตรเครดิต/เดบิต, QR Code ทั้ง Thai QR และ e-Wallet ต่างประเทศ เช่น Alipay, WeChat Pay.
- Merchant iPay (ธนาคารกรุงเทพ) รองรับการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ แอป และโซเชียลมีเดีย.
- Krungsri Biz Payment Gateway (ธนาคารกรุงศรี) มีฟีเจอร์สร้างลิงก์ชำระเงินและกำหนดเวลาชำระได้เอง.
- 2C2P รองรับบัตรเครดิต/เดบิต, QR Payment, E-Wallet และ Mobile Banking พร้อมระบบผ่อนชำระ 0%.
- OPN Payment (อดีต Omise) ใช้งานง่าย เชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ดี รองรับบัตรเครดิต, PromptPay, Mobile Banking, E-Wallet และมีมาตรฐานความปลอดภัย PCI DSS 4.0.
-
ความปลอดภัยและมาตรฐาน: ควรเลือกระบบที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง เช่น PCI DSS และมีการปกป้องข้อมูลลูกค้าอย่างเข้มงวด.
-
การรองรับหลายช่องทาง: ระบบที่ดีควรรองรับการชำระเงินผ่านหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต, QR Code, PromptPay, E-Wallet และ Internet Banking เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม.
-
การเติบโตของธุรกิจ SME: การใช้ระบบรับชำระเงินดิจิทัล เช่น QR Code และบัตรเครดิต ช่วยให้ SME ไทยเติบโตอย่างรวดเร็วและบริหารกระแสเงินสดได้ดีขึ้น.
โดยสรุป ธุรกิจในไทยควรเลือกใช้ระบบชำระเงินที่รองรับ QR Code และ PromptPay เป็นหลัก พร้อมกับเลือก Payment Gateway ที่มีความปลอดภัยสูง รองรับบัตรเครดิตและช่องทางชำระเงินหลากหลาย เช่น K Payment Gateway, 2C2P, OPN Payment เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในตลาดไทย.
