ความซับซ้อนของดีไซน์มีผลโดยตรงต่อราคา เนื่องจากงานที่มีความซับซ้อนสูงต้องใช้เวลามากขึ้น ทักษะและความเชี่ยวชาญของนักออกแบบสูงขึ้น รวมถึงอุปกรณ์และกระบวนการทำงานที่ละเอียดและประณีตมากขึ้น จึงทำให้ต้นทุนและราคาสูงตามไปด้วย
รายละเอียดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความซับซ้อนและผลต่อราคามีดังนี้:
- ระดับความเชี่ยวชาญของนักออกแบบ: นักออกแบบที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงสูงจะเรียกเก็บค่าบริการสูงกว่า เพราะทักษะและคุณภาพงานที่ดีกว่า
- ขอบเขตและรายละเอียดของงาน: งานที่มีรายละเอียดซับซ้อน เช่น การออกแบบเฉพาะตัว ฟังก์ชันพิเศษ หรือการแกะสลักที่ประณีต จะเพิ่มเวลาและทรัพยากรในการทำงาน ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น
- จำนวนครั้งและความซับซ้อนของการแก้ไขงาน: การแก้ไขงานบ่อยหรือซับซ้อนมากขึ้นจะเพิ่มต้นทุนและราคางานออกแบบ
- ขนาดพื้นที่หรือขอบเขตโครงการ: ในงานออกแบบตกแต่งภายในหรือก่อสร้าง พื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นและมีหลายส่วนซับซ้อนจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
- วัสดุและเทคนิคพิเศษ: ในกรณีงานเครื่องประดับ เช่น แหวนเพชร การออกแบบที่ซับซ้อนและใช้เทคนิคฝังเพชรละเอียดจะทำให้ราคาสูงขึ้น
นอกจากนี้ การคิดราคางานออกแบบยังแบ่งได้เป็น 2 แบบหลัก คือ
- คิดราคาจากต้นทุนบวกกำไร เช่น ค่าแรง เวลา และวัสดุ
- คิดราคาจากคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ ซึ่งถ้างานออกแบบช่วยเพิ่มมูลค่าหรือกำไรให้ลูกค้าได้ ราคาก็จะสูงขึ้นตามคุณค่านั้น
ดังนั้น ความซับซ้อนของดีไซน์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคางานออกแบบสูงขึ้น เพราะต้องใช้เวลา ทักษะ และทรัพยากรมากขึ้น รวมถึงส่งผลต่อมูลค่าที่ลูกค้าได้รับจากงานนั้นด้วย
