คำแนะนำและเคล็ดลับการตั้งชื่อพารามิเตอร์ UTM
พารามิเตอร์ UTM (Urchin Tracking Module) คือชุดโค้ดที่ต่อท้าย URL เพื่อช่วยติดตามแหล่งที่มาและประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดออนไลน์ การตั้งชื่อพารามิเตอร์ให้ถูกต้องและเป็นระบบจะช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลแม่นยำและง่ายต่อการทำงานเป็นทีม
พารามิเตอร์ UTM ที่ควรรู้
| พารามิเตอร์ | ความหมายและตัวอย่างการใช้งาน | จำเป็นหรือไม่ |
|---|---|---|
| utm_source | แหล่งที่มาของ Traffic เช่น google, facebook, tiktok | จำเป็น |
| utm_medium | ช่องทางหรือรูปแบบ เช่น email, cpc, social | จำเป็น |
| utm_campaign | ชื่อแคมเปญหรือโปรโมชัน เช่น summer_sale, new_product | แนะนำ |
| utm_content | รายละเอียดเพิ่มเติมของแคมเปญ (ใช้แยกแคมเปญที่ชื่อใกล้เคียง) | ไม่จำเป็น |
| utm_term | คีย์เวิร์ดหรือข้อมูลเพิ่มเติม (มักใช้ในโฆษณาจ่ายตามคลิก) | ไม่จำเป็น |
เคล็ดลับการตั้งชื่อพารามิเตอร์ UTM
- ตั้งชื่อให้กระชับและสื่อความหมายชัดเจน เช่น ใช้ “summer_sale_2024” แทน “sale”
- ใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด เพื่อป้องกันความสับสนจากระบบที่แยกแยะตัวพิมพ์ใหญ่-เล็ก
- หลีกเลี่ยงอักขระพิเศษและช่องว่าง ใช้เครื่องหมายขีดล่าง (_) แทนการเว้นวรรค
- ใช้ระบบการตั้งชื่อที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งองค์กร เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องและวิเคราะห์ง่าย
- ตรวจสอบการสะกดและความถูกต้อง การพิมพ์ผิดหรือตั้งชื่อไม่สอดคล้องกันอาจทำให้ข้อมูลผิดพลาด
- กรอกข้อมูลอย่างน้อย 2 พารามิเตอร์หลัก คือ utm_source และ utm_medium
- ใช้เครื่องมือช่วยสร้าง UTM เช่น Google Campaign URL Builder เพื่อลดความผิดพลาดและประหยัดเวลา
ตัวอย่างการตั้งชื่อพารามิเตอร์ UTM
https://example.com/?utm_source=facebook&utm_medium=social&utm_campaign=summer_sale_2024
สิ่งที่ควรระวัง
- อย่าใช้ชื่อที่คล้ายกันจนแยกแยะไม่ได้ เช่น ใช้ “campaign1” และ “campaign_1” ในแคมเปญเดียวกัน
- อย่าเปลี่ยนระบบการตั้งชื่อกลางคัน เพราะจะทำให้ข้อมูลย้อนหลังเปรียบเทียบยาก
- ตรวจสอบ URL ปลายทางให้ถูกต้อง ก่อนนำไปใช้งานจริง
สรุป
การตั้งชื่อพารามิเตอร์ UTM อย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอจะช่วยให้การติดตามผลการตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรใช้เครื่องมือช่วยสร้างและตรวจสอบความถูกต้องก่อนใช้งานจริง เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
