การปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์เพื่อเพิ่มอันดับบน Yahoo โดยเฉพาะเรื่องความเร็วในการโหลดและการรองรับมือถือ มีแนวทางหลักดังนี้
- ปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์
- ลดขนาดไฟล์ HTML, CSS, JavaScript ด้วยการลบโค้ดที่ไม่จำเป็น เช่น ความคิดเห็น ช่องว่าง และใช้เครื่องมือย่อไฟล์ (minify) เช่น Toptal, JSCompress หรือปลั๊กอินอย่าง WP Rocket, WP Fastest Cache
- ใช้เทคนิค Lazy Load เพื่อโหลดเฉพาะส่วนที่ผู้ใช้เห็นก่อน ลดเวลาโหลดหน้าเว็บ
- แก้ไข Render-blocking Resources โดยจัดลำดับการโหลด CSS และ JavaScript ให้เหมาะสม ใช้ async และ defer กับสคริปต์ที่ไม่จำเป็นต้องโหลดทันที
- ใช้การบีบอัดไฟล์ (Compression) เช่น Gzip หรือ Brotli เพื่อลดขนาดไฟล์ที่ส่งไปยังเบราว์เซอร์
- ตั้งค่าแคช (Caching) ทั้งฝั่งเซิร์ฟเวอร์และฝั่งผู้ใช้ผ่านไฟล์ .htaccess หรือปลั๊กอินแคช เช่น W3 Total Cache
- ใช้บริการ CDN (Content Delivery Network) เช่น Cloudflare หรือ Amazon CloudFront เพื่อกระจายเนื้อหาและเพิ่มความเร็วในการโหลดจากตำแหน่งที่ใกล้ผู้ใช้มากที่สุด
- เลือกใช้ Hosting ที่มีประสิทธิภาพสูง และอัปเดต PHP หรือฐานข้อมูลเป็นเวอร์ชันล่าสุด
- การรองรับมือถือ (Mobile Friendly)
- ออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลบนมือถืออย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่ปรับขนาดหน้าจอ แต่ต้องทำให้ใช้งานง่ายและสะดวก เช่น ปุ่มกดใหญ่พอ, เนื้อหาอ่านง่าย
- ตรวจสอบความเป็น Mobile Friendly ด้วยเครื่องมือของ Google เช่น Google’s Mobile-Friendly Testing Tool เพื่อหาจุดบกพร่องและแก้ไข
- ปรับปรุง Critical Rendering Path ให้โหลดเนื้อหาหลักบนมือถือได้เร็วที่สุด เช่น การจัดลำดับโหลดไฟล์ CSS, JavaScript และฟอนต์อย่างเหมาะสม
- ใช้รูปภาพที่เหมาะสมกับมือถือ เช่น รูปภาพแบบ WebP, Adaptive Images หรือใช้
<picture>และ CSS media queries เพื่อโหลดภาพขนาดเหมาะสมกับอุปกรณ์
- ปัจจัยอื่นที่ช่วยเพิ่มอันดับ SEO บน Yahoo
- ลดจำนวนปลั๊กอินและส่วนขยายที่ไม่จำเป็นเพื่อลดการร้องขอ HTTP/HTTPS
- ปรับปรุง UX ให้ดีขึ้น เช่น ลดเวลาโหลดไม่เกิน 3-4 วินาที ลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate)
- อัปเดตเนื้อหาเว็บไซต์ให้สดใหม่และมีคุณภาพ
โดยรวม การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ทั้งในด้านความเร็วและการรองรับมือถือจะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น มีประสบการณ์ใช้งานที่ดี และส่งผลดีต่ออันดับการค้นหาบน Yahoo และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ด้วย
