การจัดการฐานข้อมูลให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพควรเน้นที่การควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบและติดตามกิจกรรม รวมถึงการบำรุงรักษาและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดสำคัญประกอบด้วย
-
การควบคุมการเข้าถึง (Access Control)
กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาท (RBAC) และใช้รหัสผ่านที่รัดกุม รวมถึงการรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัย (MFA) เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต -
การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
เข้ารหัสข้อมูลสำคัญทั้งในฐานข้อมูลและระหว่างการส่งข้อมูล เพื่อป้องกันการถูกดักจับหรือโจรกรรมข้อมูล -
การตรวจสอบและติดตาม (Audit and Monitoring)
ตรวจสอบกิจกรรมการใช้งานฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเข้าถึงข้อมูล การเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ และพฤติกรรมที่ผิดปกติ เพื่อป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ทันท่วงที -
การจัดการแพทช์และอัปเดตระบบ
ดำเนินการอัปเดตซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลและแพทช์ความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี -
การสำรองและกู้คืนข้อมูล (Backup and Recovery)
วางแผนและดำเนินการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสูญหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด และสามารถกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว -
การจัดการประสิทธิภาพ (Performance Tuning)
ทดสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเข้าถึงและจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ -
การกำหนดมาตรฐานและนโยบาย
กำหนดนโยบายความปลอดภัยและมาตรฐานการจัดการข้อมูล เช่น นโยบายรหัสผ่าน การแบ่งแยกหน้าที่ และการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) -
การจำกัดการเข้าถึงเฉพาะแอปพลิเคชันและเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับอนุญาต
กำหนดให้เฉพาะแอปพลิเคชันหรือเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อถือได้เท่านั้นที่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลได้
การจัดการฐานข้อมูลที่ดีจึงเป็นการผสมผสานระหว่างมาตรการด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการระบบเพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ปลอดภัย และพร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
