ความแตกต่างระหว่างอัลกอริทึมของ Google กับ Yahoo ที่ส่งผลต่อการเลือกคีย์เวิร์ด อยู่ที่หลักการและเทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลคำค้นหาและจัดอันดับผลลัพธ์ ซึ่งมีผลต่อการวางกลยุทธ์เลือกคีย์เวิร์ดสำหรับ SEO ดังนี้
| ประเด็น | Yahoo | |
|---|---|---|
| เทคโนโลยีอัลกอริทึม | ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนและทันสมัย เช่น Hummingbird, RankBrain ที่เน้นความเข้าใจบริบทและความตั้งใจของผู้ใช้ (user intent) โดยเน้น Long-tail Keyword และเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริง | ใช้เทคโนโลยีการค้นหาของ Bing เป็นหลัก (หลังจาก Yahoo Search ใช้ผลการค้นหาจาก Bing) ซึ่งมีความแม่นยำรองลงมาและเน้นการรวมบริการข่าวสารและเนื้อหาจาก Yahoo เอง |
| การจัดอันดับผลลัพธ์ | เน้นความเกี่ยวข้องและคุณภาพของเนื้อหา รวมถึงประสบการณ์ผู้ใช้ เช่น ความเร็วเว็บไซต์ ความน่าเชื่อถือ และการใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ | เน้นการรวมข้อมูลจากบริการต่าง ๆ ของ Yahoo เช่น ข่าวสาร อีเมล และการเงิน ทำให้ผลลัพธ์มีความหลากหลายแต่ไม่ทันสมัยเท่า Google |
| ผลกระทบต่อการเลือกคีย์เวิร์ด | ควรเน้นคีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจง (Long-tail Keyword) และเขียนเนื้อหาที่ตอบคำถามหรือความต้องการของผู้ใช้จริง เพื่อให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมที่เข้าใจบริบทและความตั้งใจ | ควรเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวสารหรือบริการที่ Yahoo เน้น และอาจใช้คีย์เวิร์ดทั่วไป (Generic Keyword) ได้ เนื่องจากระบบค้นหาไม่ทันสมัยและเน้นการรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง |
| การอัปเดตอัลกอริทึม | มีการอัปเดตบ่อยและต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงความแม่นยำและประสบการณ์ผู้ใช้ | อัปเดตน้อยกว่าและพึ่งพาเทคโนโลยีของ Bing ทำให้มีข้อจำกัดในความทันสมัยและความแม่นยำ |
สรุป
- Google มีอัลกอริทึมที่เน้นความเข้าใจภาษาธรรมชาติและความตั้งใจของผู้ใช้ จึงเหมาะกับการใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงและตอบโจทย์ผู้ค้นหาอย่างลึกซึ้ง เช่น Long-tail Keyword
- Yahoo ใช้เทคโนโลยีของ Bing และเน้นการรวมข้อมูลจากบริการต่าง ๆ ของ Yahoo ทำให้เหมาะกับคีย์เวิร์ดทั่วไปและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารหรือบริการของ Yahoo มากกว่า
ดังนั้น การเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับ SEO บน Google ควรเน้นความเฉพาะเจาะจงและความสอดคล้องกับความตั้งใจของผู้ใช้ ส่วน Yahoo อาจเน้นคีย์เวิร์ดที่กว้างกว่าและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวสารหรือบริการที่ Yahoo ให้ความสำคัญ.
