การลงทุนกับการโฆษณา Google Ads และ Facebook Ads อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากการวางแผนและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน พร้อมทั้งกำหนดงบประมาณและกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสม รวมถึงการปรับแต่งโฆษณาให้ตรงกับพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าเป้าหมาย
รายละเอียดสำคัญในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่
-
กำหนดเป้าหมาย (Objective) ให้ชัดเจน เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย, สร้างการรับรู้แบรนด์ หรือเพิ่มการมีส่วนร่วม เพราะเป้าหมายจะกำหนดวิธีการตั้งค่าและกลยุทธ์โฆษณา
-
ตั้งงบประมาณและระยะเวลาให้เหมาะสม โดยเริ่มจากงบประมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อยปรับเพิ่มตามผลลัพธ์ เช่น Facebook Ads สามารถตั้งงบประมาณรายวันหรือตลอดแคมเปญได้ และ Google Ads ก็สามารถกำหนดงบประมาณต่อวันได้เช่นกัน
-
เลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด โดยใช้เครื่องมือเช่น Facebook Detailed Targeting หรือ Google Analytics และ Facebook Pixel เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและทำ Retargeting ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและลดต้นทุนโฆษณา
-
ปรับแต่งโฆษณาให้มีคุณภาพสูง เช่น การเลือกคำค้นหา (Keywords) ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ, การเขียนข้อความโฆษณาที่ดึงดูด, การใช้ Ad Extensions ใน Google Ads และการเลือกตำแหน่งโฆษณาที่เหมาะสมใน Facebook Ads เพื่อเพิ่ม CTR และ Quality Score ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนต่อคลิก (CPC)
-
ใช้กลยุทธ์ Bidding ที่เหมาะสมใน Google Ads เช่น Maximize Conversions, Target CPA หรือ Target ROAS เพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน
-
ทำ Retargeting Ads เพื่อกระตุ้นลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือเพจแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ โดยโฆษณาจะตามไปแสดงทั้งบน Facebook และเครือข่าย Google ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
-
ตรวจสอบและปรับปรุงโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ โดยดูผลลัพธ์จากตัวชี้วัด เช่น CTR, Conversion Rate และ ROAS เพื่อปรับเปลี่ยนข้อความ, กลุ่มเป้าหมาย หรือการตั้งค่าแคมเปญให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
การผสมผสานการใช้ Google Ads และ Facebook Ads อย่างเหมาะสมกับลักษณะธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้การลงทุนโฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด โดย Google Ads เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่พร้อมซื้อและค้นหาสินค้า ส่วน Facebook Ads เหมาะกับการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์
