การแก้ไขปัญหา Google Penalty มีแนวทางหลักดังนี้
- ตรวจสอบประเภทของ Google Penalty ว่าเป็นแบบ Manual (Google แจ้งเตือนผ่าน Google Search Console) หรือแบบ Algorithmic (ตรวจสอบจากการลดลงของอันดับและปริมาณการเข้าชม)
- แก้ไขเนื้อหาโดยลดการยัดคีย์เวิร์ดให้อยู่ในช่วง 2-5% ของจำนวนคำทั้งหมด และทำให้เนื้อหากลมกลืนเป็นธรรมชาติ
- กำจัดเนื้อหาซ้ำ เนื้อหาบาง หรือเนื้อหาคุณภาพต่ำ (Panda Penalty) และลบลิงก์คุณภาพต่ำหรือสแปมที่ชี้มายังเว็บไซต์ (Penguin Penalty)
- ตรวจสอบและจัดการ Backlink ที่ไม่ดี โดยใช้ Google Search Console เพื่อลบหรือปฏิเสธลิงก์ที่เป็นสแปม
- ปรับปรุงความปลอดภัยเว็บไซต์ เช่น เปลี่ยนรหัสผ่านให้รัดกุม เลือกโฮสต์ที่มีระบบสแกนมัลแวร์ และตรวจสอบโดเมนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการโดนแฮ็กซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของ Penalty
- อัปเดตเนื้อหาใหม่ที่มีคุณภาพและเขียนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นฟูอันดับเว็บไซต์
การจัดการ SEO สำหรับเว็บไซต์หลายภาษา มีข้อควรปฏิบัติดังนี้
- ใช้โค้ด hreflang บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อบอก Google ว่าแต่ละหน้าเป็นภาษาอะไร ช่วยป้องกันปัญหาเนื้อหาซ้ำและเพิ่มความเข้าใจของ Google
- ระบุ URL ของแต่ละภาษาชัดเจนใน Sitemap และให้สอดคล้องกับโครงสร้าง URL เช่น /en/ สำหรับภาษาอังกฤษ /jp/ สำหรับภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น
- เนื้อหาและ URL ของแต่ละภาษาควรสอดคล้องกัน เพื่อให้ Google สามารถวิเคราะห์และจัดอันดับได้ถูกต้อง
- ใช้เครื่องมือ SEO ที่รองรับหลายภาษา เช่น Yoast SEO บน WordPress เพื่อช่วยสร้าง Sitemap และจัดการ hreflang ได้ง่ายขึ้น
การจัดการทั้งสองส่วนนี้อย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงจาก Google Penalty และเพิ่มประสิทธิภาพ SEO สำหรับเว็บไซต์ที่มีหลายภาษาได้อย่างมีประสิทธิผล
