
แนะนำทั่วไปเกี่ยวกับการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ใหม่ในประเทศไทย
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมมีโอกาสได้มาพูดในงานสมาคมโฆษณาประเทศไทยเกี่ยวกับวิธีการทำให้เว็บไซต์ใหม่ของคุณถูก Google จัดอันดับบนหน้าผลการค้นหาได้ในวันแรก การมีเว็บไซต์ใหม่และได้อันดับเร็วไม่ใช่เรื่องยากหากเราเข้าใจกลยุทธ์และเทคนิคที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในบริบทของตลาดไทยที่มีการแข่งขันสูงในโลกออนไลน์ที่ขับเคลื่อนด้วย Google ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของคนไทยกว่า 90% การทำ SEO (Search Engine Optimization) จึงเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดออนไลน์
วันนี้ผมจะนำเสนอแนวทางที่ผมได้ทดลองใช้จริงและประสบผลสำเร็จ สำหรับเจ้าของธุรกิจไทยที่ต้องการเริ่มต้นออนไลน์ รับรองว่าเข้าใจง่ายและนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
1. การเตรียมความพร้อมสำหรับเว็บไซต์ใหม่
ก่อนที่เราจะพูดถึงการทำให้เว็บไซต์ถูกจัดอันดับในทันที วันแรกที่เปิดตัว สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้
- โครงสร้างเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามหลัก SEO หมายถึง การวางโครงสร้าง URLs ที่เป็นมิตรกับ Google เช่น การใช้ URL เป็นภาษาไทยแบบย่อ หรือภาษาอังกฤษแบบง่าย, การจัดลำดับหน้า (hierarchy) ที่ชัดเจน เพราะ Google bots จะเข้าใจง่ายและเก็บข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
- เว็บไซต์ตอบสนองเร็วและเหมาะสมกับมือถือ ปัจจุบัน Google ให้ความสำคัญกับความเร็วของเว็บไซต์และความเหมาะสมในการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile Friendly) ซึ่งในประเทศไทยการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือสูงมาก ดังนั้นต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์โหลดเร็ว ภายใน 3 วินาที และใช้งานง่าย
- เนื้อหาคุณภาพและเกี่ยวข้องกับตลาดไทย การเขียนคอนเทนต์ที่เข้าใจง่าย ใช้คำค้นหาที่ผู้บริโภคไทยนิยมค้นหา (Keyword research ภาษาไทยเป็นสิ่งสำคัญ)
2. วิธีดันเว็บไซต์ใหม่ให้ติด Google อย่างรวดเร็ว
เมื่อเตรียมเว็บไซต์พร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้ Google crawl และ index เว็บไซต์ของคุณอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมจะแบ่งออกเป็นขั้นตอนสำคัญดังนี้
2.1 ส่ง Sitemap และ URL Submit ผ่าน Google Search Console
Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีที่ Google พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเว็บไซต์เจ้าของเข้าใจและตรวจสอบสถานะบน Google ส่ง Sitemap.xml ที่ถูกสร้างขึ้นแบบอัตโนมัติจากระบบเว็บไซต์ของคุณเข้าไปทันทีหลังเปิดตัว เพราะ Sitemap จะช่วย Google รู้ว่าคุณมีหน้าอะไรบ้าง และอันดับไหนที่สำคัญ
นอกจากนี้เราควรใช้เครื่องมือ URL Inspection เพื่อ submit URL ใหม่ ๆ เข้าระบบ Google เพื่อกระตุ้นให้ Google bot เข้ามาประเมินหน้าเว็บไซต์ทันที
2.2 เพิ่ม Backlinks จากเว็บไซต์คุณภาพในไทย
Backlinks หรือ ลิงก์ย้อนกลับจากเว็บไซต์อื่นที่มีคุณภาพ เป็นตัวบ่งชี้ความน่าเชื่อถือและความสำคัญของเว็บไซต์ Google มักจะรวบรวมข้อมูลจากลิงก์เหล่านี้ เมื่อได้รับการเชื่อมโยงจากแหล่งที่มีชื่อเสียง จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเก็บข้อมูลของ Google bots
ตัวอย่างเช่น คุณอาจติดต่อเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ในไทยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณหรือบล็อกเกอร์ชื่อดัง ทำการฝากลิงก์หรือบทความรีวิวสินค้า สิ่งนี้ช่วยดันให้เว็บไซต์ใหม่ถูกเข้าถึงได้เร็วขึ้น
2.3 ใช้ Social Media และการโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์
ในยุคนี้ช่องทาง Social Media เช่น Facebook, Instagram, LINE OA หรือ YouTube มีบทบาทสำคัญมากในการเผยแพร่ลิงก์เว็บไซต์ ทำให้ Google สังเกตเห็นเว็บไซต์ใหม่ของคุณจากลิงก์ที่ถูกแชร์และถูกกดเข้าชมบ่อย ๆ
ลองทำโพสต์หรือโฆษณาเล็ก ๆ ด้วยงบประมาณเริ่มต้นที่ 1,000-3,000 บาท (THB) เพื่อดันทราฟฟิกเข้าเว็บไซต์วันแรก จะช่วยให้ Google ระบุได้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีการเข้าชมจริงและควรได้รับการจัดอันดับ
3. เทคนิคเชิงลึกที่ใช้ในประเทศไทยสำหรับการติดอันดับเร็ว
จากประสบการณ์ตรงของผมที่ทำตลาดออนไลน์ให้ลูกค้าไทยหลายราย พบว่าการใช้คำค้นหาท้องถิ่น (Local SEO) และการปรับแต่งเนื้อหาให้เข้ากับวัฒนธรรมไทย ช่วยเพิ่มอัตราการติดอันดับและมีการคลิกเข้าชมจริง นอกจากนี้ยังมีวิธีการเชิงเทคนิคที่ควรรู้ดังนี้
3.1 การใช้ Google My Business (GMB) สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านในไทย
หากธุรกิจของคุณมีหน้าร้านหรือสำนักงานในประเทศไทย อย่าลืมลงทะเบียน Google My Business ซึ่งช่วยให้ธุรกิจของคุณแสดงผลใน Google Maps และ Local Pack ซึ่งจะเร่งอัตราการค้นพบเว็บไซต์คุณอย่างมาก
3.2 การใช้ Schema Markup ภาษาไทย
Schema Markup คือโค้ดเสริมที่ช่วยให้ Google เข้าใจข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณอย่างละเอียด ในภาษาไทยเราสามารถเพิ่ม Schema สำหรับองค์กร, สินค้า, บทความ และรีวิวได้ เพื่อให้ Google แสดง Rich Snippets ที่โดดเด่นบนหน้าผลการค้นหา ช่วยเพิ่ม CTR (Click Through Rate) และการรับรู้ของแบรนด์
4. ตารางเปรียบเทียบวิธีการดันเว็บไซต์ใหม่บน Google ระหว่างยุคก่อนหน้าและยุคปัจจุบัน
วิธีการ | ยุคก่อนหน้า (2015-2017) | ยุคปัจจุบัน (2023-2024) |
---|---|---|
ระยะเวลาที่เว็บไซต์ติดอันดับ | 2-4 สัปดาห์ | 1 วันถึง 3 วัน |
วิธีการส่งเว็บไซต์ | ส่ง URL ผ่านเครื่องมือ Submit แบบแมนนวล | ใช้ Google Search Console พร้อมส่ง Sitemap และ URL Inspection |
การใช้ Backlink | ง่ายและเน้นจำนวน | เน้นคุณภาพและความเกี่ยวข้องของลิงก์ |
การใช้ Social Media | ไม่ค่อยมีผล | มีผลมากในการเร่งการเก็บข้อมูลโดย Google bots |
การทำ SEO ท้องถิ่น | ไม่เน้นมาก | สำคัญมาก โดยเฉพาะตลาดไทย |
การปรับแต่งเนื้อหา | เนื้อหาทั่วไปและคัดลอกซ้ำได้ | เน้นคุณภาพสูง ใช้เนื้อหาเฉพาะและตอบโจทย์ผู้ใช้ |
5. การลงทุนและงบประมาณในการทำ SEO ติดอันดับเร็วในประเทศไทย
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังวางแผนงบประมาณเพื่อทำ SEO อย่างรวดเร็ว สามารถแบ่งงบประมาณตามขั้นตอนดังนี้
- จ้างมืออาชีพ SEO หรือบริษัทรับทำ SEO อยู่ที่ประมาณ 10,000 - 30,000 THB/เดือน ขึ้นกับขอบเขตงาน
- ซื้อเครื่องมือวิเคราะห์ Keyword และตรวจสอบเว็บไซต์ เช่น SEMrush, Ahrefs, หรือ Google Keyword Planner ซึ่งบางตัวมีแบบฟรีแต่ตัวเต็มราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2,000-5,000 THB/เดือน
- งบ Social Media Promotion เริ่มต้นที่ 1,000 - 5,000 THB ต่อแคมเปญ เพื่อดันทราฟฟิก
- ค่าจดโดเมนและโฮสติ้ง ราคาถูกสุดที่ใช้ได้ดีในไทย ประมาณ 500 - 3,000 THB/ปี ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและประสิทธิภาพ
การลงทุนอย่างเหมาะสมถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการทำให้เว็บไซต์ใหม่ถูกจัดอันดับได้รวดเร็ว เพราะ Google แสวงหาสัญญาณของความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจของเว็บ
6. เคล็ดลับเสริมเพื่อรักษาอันดับและเพิ่มการมองเห็นหลังวันแรก
- ปรับปรุงเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มบทความใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ในประเทศไทย
- ทำ Internal Linking หรือการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ให้เหมาะสม เพื่อช่วย Google bots เข้าใจโครงสร้างของเว็บ
- ติดตามผลการทำ SEO ผ่าน Google Analytics และ Google Search Console เพื่อปรับกลยุทธ์อย่างเหมาะสม
- ตอบคำถามและรีวิวลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
สรุปย่อ
การทำให้เว็บไซต์ใหม่ขึ้นอันดับ Google ในวันแรกในตลาดประเทศไทยต้องอาศัยการวางโครงสร้างเว็บที่ดี, ส่ง Sitemap ผ่าน Google Search Console, สร้าง Backlink คุณภาพจากแหล่งไทย, และใช้ Social Media เป็นเครื่องมือเร่งดันทราฟฟิก การลงทุนเรื่องเนื้อหาและเครื่องมือวิเคราะห์ก็มีส่วนช่วยหลักเพื่อความสำเร็จทันที ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างสูงสำหรับการทำตลาดออนไลน์ของทุกท่านในประเทศไทย
7. สำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและการค้นหาในประเทศไทยเพื่อทำ SEO ให้ตรงใจ
เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Google ได้ตั้งแต่วันแรก ต้องเข้าใจพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งานในประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาและคำค้นหาที่นิยม รวมถึงช่วงเวลาที่มีการค้นหาสูงสุด ผมขอแบ่งเป็นหัวข้อหลักสำหรับการศึกษาพฤติกรรมนี้ดังนี้
- การใช้ภาษาและคำค้นหาแบบท้องถิ่น (Local Keywords) คนไทยมักจะใช้คำค้นหาแบบไม่เป็นทางการหรือคำที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น คำว่า "ธุรกิจออนไลน์" อาจถูกค้นหาด้วยคำว่า "ขายของออนไลน์" หรือ "เปิดร้านออนไลน์" การทำ Keyword Research ที่เหมาะสมกับคนไทยจึงสำคัญมาก
- ช่วงเวลาที่คนไทยใช้งาน Google มากที่สุด ช่วงเวลาตอนกลางคืนตั้งแต่ 20.00 น. ถึงเที่ยงคืน มีการค้นหาสูงสุด ซึ่งควรวางแผนการโปรโมทและปล่อยเนื้อหาให้ตรงกับช่วงเวลานี้ เพื่อดันการเข้าชมในวันเปิดเว็บไซต์
- แนวโน้มการค้นหาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการในประเทศไทย เช่น เทรนด์สินค้าแฟชั่น, เครื่องสำอาง, อาหารเสริม หรือบริการท่องเที่ยว การทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับเทรนด์เหล่านี้ จะเพิ่มโอกาสในการถูกจัดอันดับเร็วและมีคนคลิกมากขึ้น
8. การจัดการปัญหาทางเทคนิคที่อาจขัดขวางการจัดอันดับตั้งแต่วันแรก
บางครั้งเว็บไซต์ใหม่อาจมีปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ Google ไม่สามารถเก็บข้อมูลหรือจัดอันดับได้ เราควรรู้วิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
8.1 ปัญหา Robots.txt และการบล็อค Google bots
เมื่อสร้างเว็บไซต์ใหม่ ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ robots.txt ไม่ได้บล็อคการเข้าถึงหน้าสำคัญหรือทั้งหมดของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น บางครั้งมีการตั้งค่า "Disallow: /" ซึ่งหมายความว่า Google bots ถูกบล็อคไม่ให้เข้าถึงเลย ต้องแก้ไขทันทีโดยเปลี่ยนเป็นการยอมให้สิทธิเข้าเก็บข้อมูล
8.2 ตรวจสอบสถานะ HTTP Header และ Response Code
หากหน้าเว็บไซต์ส่งกลับรหัส 404 (ไม่พบหน้า), 301/302 (เปลี่ยนเส้นทาง), หรือ 500 (ข้อผิดพลาดเซิร์ฟเวอร์) อาจส่งผลเสียต่อการจัดอันดับ ควรตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่าง Screaming Frog หรือ Google Search Console และแก้ไขให้ทุกหน้าแสดงรหัส 200 ที่ถูกต้อง
8.3 การใช้ SSL Certificate เพื่อความปลอดภัย
Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มี HTTPS โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ขอข้อมูลส่วนตัวหรือทำธุรกรรมออนไลน์ ดังนั้น การติดตั้ง SSL Certificate จะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับความน่าเชื่อถือและส่งผลดีต่ออันดับ
9. การใช้ Content Marketing and Blogging เพื่อเร่งการถูกจัดอันดับ
เนื้อหาเป็นหัวใจสำคัญของ SEO และเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความเชื่อถือและดึงดูดผู้ใช้งาน
9.1 สร้างคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ในประเทศไทย
เขียนบทความที่ตอบคำถามพฤติกรรมและปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังสนใจ เช่น หากคุณขายเครื่องสำอางออนไลน์ ให้ทำบทความเรื่อง "เคล็ดลับดูแลผิวหน้าฤดูร้อนในประเทศไทย" หรือ "รีวิวเครื่องสำอางยอดนิยมของไทย"
9.2 การโพสต์บทความสม่ำเสมอและโปรโมทผ่านโซเชียล
Google ชอบเว็บไซต์ที่มีการอัพเดตเนื้อหาใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการแชร์บทความผ่าน Facebook, Twitter หรือ LINE OA จะช่วยเพิ่มลิงก์ที่ถูกค้นพบและยกระดับความน่าเชื่อถือ
10. ตัวอย่างเคสศึกษาจากลูกค้าในประเทศไทย
ผมขอแชร์ประสบการณ์จริงจากโครงการทำ SEO เว็บไซต์ร้านขายอุปกรณ์ไอทีในกรุงเทพฯ ที่เพิ่งเปิดใหม่ เมื่อใช้แนวทางที่ผมแนะนำได้แก่ การส่ง Sitemap ทันทีผ่าน Google Search Console, การสร้าง Backlink จากเว็บรีวิวชื่อดังในไทย และการใช้โฆษณา Facebook เพื่อเพิ่มการเข้าชมภายใน 24 ชั่วโมง เว็บติดอันดับคำสำคัญในท้องตลาดได้ภายใน 1 วัน สร้างยอดขายได้ทันที
ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่าทุกขั้นตอนและกลยุทธ์ที่วางไว้นั้นมีผลจริงกับตลาดไทย และงบประมาณที่ใช้กับ SEO เริ่มต้นเพียง 20,000 THB ในเดือนแรก ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับผลลัพธ์
11. ตารางแสดงเครื่องมือและทรัพยากรสำหรับเจ้าของธุรกิจไทยเริ่มต้นทำ SEO
เครื่องมือ / ทรัพยากร | ความสำคัญ | ราคาโดยประมาณ (THB) | คำแนะนำสำหรับใช้ในตลาดไทย |
---|---|---|---|
Google Search Console | จำเป็น | ฟรี | ใช้ส่ง Sitemap, ติดตามสถานะการเก็บข้อมูล |
Google Analytics | จำเป็น | ฟรี | ติดตามพฤติกรรมผู้ใช้บนเว็บไซต์ |
SEMrush / Ahrefs | สูง | 2,500 - 5,000 / เดือน | วิเคราะห์ Keyword, ตรวจสอบ Backlink คู่แข่ง |
Keyword Planner (Google Ads) | สูง | ฟรี (ใช้งานกับบัญชี Google Ads) | วิจัยคำค้นหาและเทรนด์ในตลาดไทย |
Yoast SEO (สำหรับ Wordpress) | สูง | ฟรี / มีรุ่นพรีเมียม | ช่วยปรับ SEO On-page |
Google My Business | สูงสำหรับร้านค้าพื้นที่ | ฟรี | เพิ่มการมองเห็นในพื้นที่ท้องถิ่น |
Facebook Ads | สูง | เริ่มต้น 1,000 THB ต่อแคมเปญ | โปรโมทเว็บไซต์และสร้างทราฟฟิก |
12. แนวทางการวัดและปรับแต่ง SEO หลังวันแรก
หลังจากที่เว็บไซต์ขึ้นอยู่ใน Google และเริ่มรับทราฟฟิกแล้ว การติดตามผลและปรับปรุง SEO เป็นสิ่งสำคัญ เราควรตั้งเป้าหมายวัดผลดังนี้
- จำนวนการเข้าเว็บไซต์ (Traffic) ดูจำนวนผู้เข้าชมและพฤติกรรม เพื่อประเมินว่าคอนเทนต์ตรงกับกลุ่มเป้าหมายไหม
- อันดับคำค้นหาหลัก (Ranking) ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของอันดับคำค้นหาสำคัญประจำสัปดาห์
- อัตราการคลิกผ่าน (CTR) ดูว่าคนกดเข้าชมจากหน้าผลการค้นหามากน้อยเพียงใด โดยถ้าต่ำควรปรับปรุง Title และ Meta Description
- อัตราการออกจากเว็บเร็ว (Bounce Rate) ค่าที่แสดงว่าผู้ใช้ไม่พบข้อมูลที่ต้องการและออกกลับไป ซึ่งควรปรับปรุง UX/UI หรือเนื้อหาให้ตรงกับความคาดหวัง
การวัดผลอย่างต่อเนื่องและการปรับแต่งจากข้อมูลจริงจะช่วยรักษาและเพิ่มอันดับของเว็บไซต์อย่างยั่งยืนในตลาดไทยที่มีการแข่งขันสูง