การตั้งค่า Backup และ Recovery อย่างสม่ำเสมอ คือการกำหนดนโยบายและกระบวนการสำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูลอย่างต่อเนื่องและมีระบบ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลและให้สามารถกู้คืนข้อมูลกลับมาได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
แนวทางสำคัญในการตั้งค่า Backup และ Recovery อย่างสม่ำเสมอ ได้แก่
-
ปฏิบัติตามกฎ 3-2-1 Backup คือเก็บข้อมูลสำรองอย่างน้อย 3 ชุด บนสื่อหรืออุปกรณ์ที่แตกต่างกันอย่างน้อย 2 ประเภท และเก็บข้อมูลสำรอง 1 ชุดแยกออกจากระบบหลัก เช่น บน Cloud หรือแบบ Offline (DR Site)
-
กำหนดความถี่ในการสำรองข้อมูล ให้เหมาะสมกับลักษณะข้อมูลและธุรกิจ เช่น สำรองข้อมูลรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความสำคัญและปริมาณข้อมูล
-
เลือกวิธีการสำรองข้อมูลที่เหมาะสม เช่น Full Backup (สำรองข้อมูลทั้งหมด) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และทำ Incremental หรือ Differential Backup สำหรับข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เพื่อประหยัดพื้นที่และเวลา
-
ทดสอบการกู้คืนข้อมูล (Restore Readiness) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถกู้คืนข้อมูลได้จริงภายในเวลาที่กำหนด (RTO) และข้อมูลที่กู้คืนมีความสมบูรณ์
-
กระจายความเสี่ยงของข้อมูลสำรอง โดยเก็บข้อมูลสำรองในหลายสถานที่ เช่น บนระบบภายในองค์กร (On-premise) และบน Cloud เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติหรือการโจมตีทางไซเบอร์
-
ตั้งค่าการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อให้การสำรองข้อมูลเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและทันสมัย ลดความเสี่ยงจากการลืมหรือผิดพลาดของมนุษย์
-
สร้างจุดคืนค่า (Restore Point) ในระบบปฏิบัติการ เช่น Windows System Restore Point เพื่อให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าของระบบได้ง่ายและรวดเร็ว
-
จัดทำแผนการกู้คืนข้อมูล (Disaster Recovery Plan) ที่ชัดเจน รวมถึงกำหนดนโยบายและข้อตกลงระดับบริการ (SLA) ที่ระบุความถี่และเวลาที่ต้องการกู้คืนข้อมูล
การตั้งค่าและปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้องค์กรหรือผู้ใช้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะไม่สูญหายและสามารถกู้คืนกลับมาได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการ
