การส่ง Sitemap และ URL Submit ผ่าน Google Search Console
Sitemap คือไฟล์ที่รวบรวมโครงสร้างและลิงก์สำคัญของเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้ Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูล (Crawl) และจัดทำดัชนี (Index) หน้าเว็บของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน การส่ง URL (URL Submit) เป็นการแจ้งให้ Google ทราบถึงหน้าเว็บใหม่หรือที่อัปเดตโดยตรง เพื่อเร่งกระบวนการเก็บข้อมูล
ขั้นตอนการส่ง Sitemap
- เข้าสู่ Google Search Console และเลือกพร็อพเพอร์ตี้ (Property) ของเว็บไซต์ที่ต้องการ
- ไปที่เมนู “Sitemap” ในแถบด้านซ้าย
- กรอก URL ของ Sitemap เช่น
sitemap.xmlหรือsitemap_index.xml(กรณีใช้ปลั๊กอิน Yoast SEO บน WordPress) - กด “ส่ง” (Submit) และรอตรวจสอบสถานะในรายงาน Sitemap ว่าสำเร็จหรือมีข้อผิดพลาด
- ตรวจสอบผลลัพธ์ ในเมนู Sitemap เพื่อดูว่า Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลแล้วหรือยัง
การส่ง Sitemap เป็นเพียงคำแนะนำให้ Google ทราบตำแหน่งของไฟล์เท่านั้น ไม่ได้การันตีว่า Google จะเก็บข้อมูลทุก URL ใน Sitemap ทันที
ขั้นตอนการส่ง URL (URL Submit)
- เข้าสู่ Google Search Console และเลือกพร็อพเพอร์ตี้ของเว็บไซต์
- ใช้เครื่องมือ “ตรวจสอบ URL” (URL Inspection Tool) ในแถบด้านซ้าย
- กรอก URL ที่ต้องการส่ง แล้วกด “ขอจัดทำดัชนี” (Request Indexing)
- รอผลการตรวจสอบ ว่า Google รับ URL นั้นไปจัดทำดัชนีหรือไม่
วิธีเพิ่มเติมเพื่อเร่งการเก็บข้อมูล
- อัปเดต Sitemap เป็นประจำ เมื่อมีหน้าเว็บใหม่หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
- ระบุตำแหน่ง Sitemap ในไฟล์ robots.txt ด้วยคำสั่ง
Sitemap: https://example.com/sitemap.xmlเพื่อให้ Googlebot หาไฟล์ได้ง่ายขึ้น - ใช้ Search Console API สำหรับการจัดการ Sitemap แบบอัตโนมัติ
- ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด ในรายงาน Sitemap และ URL Inspection Tool เป็นประจำ
ตารางเปรียบเทียบ: Sitemap vs URL Submit
| วิธีการ | วัตถุประสงค์ | ข้อดี | ข้อจำกัด |
|---|---|---|---|
| ส่ง Sitemap | แจ้งโครงสร้างเว็บไซต์ทั้งหมด | Googlebot เข้าถึง URL ได้ครบถ้วน | ไม่การันตีการเก็บข้อมูลทันที |
| ส่ง URL (Submit) | แจ้งหน้าเว็บใหม่/อัปเดตโดยตรง | เร่งการเก็บข้อมูลหน้าเฉพาะเจาะจง | จำกัดจำนวน URL ที่ส่งได้ต่อวัน |
สรุป
การส่ง Sitemap และ URL Submit ผ่าน Google Search Console เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ Google เข้าถึงและจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณได้รวดเร็วขึ้น แต่ทั้งสองวิธีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ SEO เท่านั้น การอัปเดตเนื้อหาเป็นประจำ ตรวจสอบข้อผิดพลาด และดูแลโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine ยังคงเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาอันดับการค้นหาในระยะยาว
